วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิธีติดตั้งระบบปฎิบัติการ วินโดว์ 7


วิธีติดตั้งระบบปฎิบัติการ Windows 7

 1.Restart และกำหนดให้เครื่องบูตจากแผ่น DVD โดยขั้นตอนการบูตของ Windows เริ่มต้นให้เรากดปุ่ม F2 หรือ Del แล้วแต่รุ่นของไบออสในคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น ในที่นี้ยกตัวอย่างดังภาพด้านล่าง ซึ่งหลักการก็คือเมื่อเข้าไบออสได้แล้ว ให้ตั้งค่าบูตจากแผ่น CD/DVD เป็นอันดับแรก

** ส่วนมากเครื่อง PC จะกดปุ่ม Del

** โน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่จะกดปุ่ม F2



 - ในตัวอย่างนี้ให้กดปุ่มลูกศรที่คีย์บอร์ดเลื่อนลงมาเลือก Advanced BIOS Features
  - ให้เลื่อนลงมาเลือกตรง First Boot Device กด Enter แล้วเลือกเป็น CD/DVD ROM
- เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วให้กดปุ่ม F10 บนคีย์บอร์ดแล้วพิมพ์ Y หลังจากนั้นกด Enter
  2.เริ่มขั้นตอนการลง Windows 7 จากแผ่น DVD สังเกตว่าเมื่อเครื่องเริ่มบูตจากแผ่นจะขึ้นข้อความดังภาพ ในขั้นตอนนี้ให้เรากดปุ่มใดๆ บนคีย์บอร์ดก็ได้เพื่อทำการบูต Windows





 3.เลือกภาษาที่ใช้ในระหว่างการลง
 4.เลือกประเทศ ในที่นี้เลือกประเทศ Thai
 5.เลือกวิธีจัดวางคีย์บอร์ดที่รองรับภาษาไทย จากนั้นคลิกปุ่ม Next


 6.คลิกปุ่ม Install now


7.เลือกเวอร์ชันของ Windows 7 ที่ต้องการลง จากนั้นคลิกปุ่ม Next


 8.คลิก I Accept ยอมรับข้อตกลงเรื่องลิขสิทธิ์  แล้วคลิกปุ่ม Next


 9.คลิก Custom (Advanced)




** เรื่องเกี่ยวกับฟอร์แมตพาร์ติชันก่อนลง Windows 7 **
          ก่อนเข้าสู่การลง Windows 7 ขั้นตอนถัดไป หากไดร์ฟ หรือพาร์ติชันที่ต้องการลง Windows 7 เป็นไดร์ฟเก่าที่ยังคงมีข้อมูลเดิมอยู่ เราสามารถเลือกฟอร์แมตไดร์ฟนี้ก่อนได้ เพื่อล้างข้อมูลทั้งหมดบนไดร์ฟที่เลือก และเป็นการจัดระเบียบพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ใหม่ด้วย
           การฟอร์แมตพาร์ติชันนี้ เราสามารถเลือกใช้คำสั่งระหว่างขั้นตอนการ ลง Windows 7 ได้ทันที โดยในขั้นตอนการเลือกพาร์ติชันสำหรับลง Windows 7 ให้เราคลิกที่ Drive options (Advanced) และเข้าไปเลือกสั่งฟอร์แมตพาร์ติชันก่อนได้ ดังนี้
                   - เลือกพาร์ติชันสำหรับ ลง Windows 7 ที่จะฟอร์แมตก่อน
                   - คลิกที่ Drive options (Advanced)

- จะปรากฏคำสั่งสำหรับจัดการพาร์ติชัน ให้คลิกที่ Format เพื่อสั่งฟอร์แมตพาร์ติชันที่เลือก
นอกจากคำสั่ง Format แล้ว ในส่วนของ Drive options ยังมีคำสั่งอื่นๆ สำหรับจัดการพาร์ติชันที่เลือกอีก ดังต่อไปนี้
          Refresh : ให้โปรแกรมติดตั้งตรวจสอบพื้นที่พาร์ติชันใหม่อีกครั้ง
          Delete : ลบพาร์ติชันที่เลือกอยู่ ผลลัพธ์ที่ได้จะได้พาร์ติชันที่ไม่มีการจัดรูปแบบ (Unpartitioned space)
          New : เลือกสร้างพาร์ติชันใหม่ (ต้องมีพื้นที่พาร์ติชันที่ยังไม่มีการจัดรูปแบบอยู่ด้วย เพื่อดึงพื้นที่ไปใช้)
          Load Driver : โหลดไดรเวอร์ของอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้เพิ่มเติม เช่น ไดรเวอร์ฮาร์ดดิสก์ SATA รุ่นใหม่
          Extend : ขยายขนาดของพาร์ติชันที่เลือก


  - แจ้งว่าข้อมูลบนไดร์ฟที่เลือกทั้งหมดจะถูกลบทิ้ง ให้เราคลิกปุ่ม OK เพื่อยืนยันการฟอร์แมต


 - โปรแกรมติดตั้งจะทำการฟอร์แมตพาร์ติชัน ให้เรารอสักครู่

10.เมื่อ Format เสร็จแล้ว ให้คลิกเลือกไดรฟ์ที่จะลง Windows ข้อสังเกตหลังจากเรา Format แล้วพื้นที่ไดรฟ์ในส่วนของ Total Size และ Free Space จะเท่ากัน
11.คลิกปุ่ม Next


12.ขั้นตอนนี้จะมีการก๊อบปี้ไฟล์ลงไดรฟ์ที่เราเลือกลง Windows 7


 13.บางครั้งอาจมีการ Restart เครื่อง


14.จะพบหน้าต่างสำหรับการปรับแต่งครั้งแรกก่อนมีการใช้งาน ให้รอสักครู่
15.เมื่อขั้นหน้าต่างดังภาพ ให้กรอกชื่อผู้ใช้ (User Name)
16.กรอกชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ จากนั้นคลิกปุ่ม Next


17.ตั้งรหัสผ่าน
18.กรอกรหัสผ่านเดิมซ้ำอีกครั้ง
19.กรอกข้อความที่ใช้ไขปริศนารหัสผ่านในกรณีลืมรหัสผ่าน จากนั้นคลิกปุ่ม Next


20.กรอก Product Key จากนั้นคลิกปุ่ม Next


 21.คลิก User recommended


22. ตั้งวันที่ และเวลาให้ถูกต้อง หลังจากนั้นคลิกปุ่ม Next
                    - Time zone UTC+07.00 Bangkok,Hanoi,Jakarta




 23.เสร็จสิ้นขั้นตอนการลง Windows 7



 เพียงเท่านี้เครื่องเราก็จะใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ได้แล้ว ซึ่งจากขั้นตอนการลง Windows 7 ดังกล่าวนั้น ผู้อ่านสามารถทำตามทีละขั้นตอนได้เลย































วิธีการประกอบคอมพิวเตอร์

ขั้นตอนที่ 1 เตรียมชุดเครื่องมือให้พร้อม
ชุดเครื่องมือสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ไขควงปากแบนและไขควงแฉกขนาดกลาง ใช้ขันน็อตยึดเมนบอร์ดเข้ากับตัวเคส ยึดการ์ดเพิ่มเติม ติดตั้งฟล็อบปี้ดิสก์ ซีดีรอมไดรว์ และฮาร์ดดิสก์ ตลอดจนการปิดฝาเคส

ตัวครีบสกรู ใช้คีบน็อตใส่ในช่องเกลียวสำหรับน็อตในที่คับแคบที่ไม่สามารถใช้มือจับได้
ตัวถอดชิป ในเครื่องรุ่นเก่าตัวชิปมักจะติดตั้งอยู่ในซ็อกเก็ตในลักษณะถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งตัวถอดชิปจะช่วยได้มากแต่ในปัจจุบันชิปมักจะถูกฝังบนตัวการ์ดหรือเมนบอร์ดตั้งแต่ผลิตออกมาจากโรงงานแล้ว การถอดต้องใช้เครื่องมือพิเศษที่ผลิตมาโดยเฉพาะ
หลอดเก็บสกรูและจัมเปอร์ ใช้สำหรับเก็บสกรูและจัมเปอร์ที่เหลือจากการประกอบเครื่อง ไว้ใช้ในยามจำเป็น
ปากคีบ สำหรับคีบจับสกรูหรืออุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ ที่ใช้มือที่หยิบไม่ได้
บล็อกหกเหลี่ยมขนาดเล็ก ใช้สำหรับขันน็อตหกเหลี่ยมตัวเมียกับแผงเหล็กของเคส เพื่อยึดเมนบอร์ดเข้ากับตัวเคส
หัวมะเฟืองสำหรับยึดน็อตพิเศษแบบหกเหลี่ยมสำหรับอุปกรณ์บางประเภทที่ทางผู้ผลิตไม่ต้องการให้ ผู้ที่ไม่ใช่ช่างอาชีพมาแกะซ่อมเอง

ขั้นตอนที่ 2 เตรียมตัวเคสสำหรับติดตั้งเมนบอร์ดขั้นตอนนี้เป็นขั้นเริ่มต้นสำหรับประกอบเครื่องมือ ให้ใช้ไขควงขันคลายน็อตยึดตัวเคสและเปิดฝากั้นออกมา โดยภายในเคสทุกตัวจะมีสายเพาเวอร์เครื่อง ชุดน๊อตสำหรับสำหรับประกอบเครื่อง ให้ตรวจสอบดูให้เรียบร้อยและทำตามขั้นตอนดังนี้
1.ใช้ไขควงขันคลายน๊อตด้านหลังตัวเคสเพื่อเปิดฝาด้านข้างออก
 2. ภายในเคสทุกตัวจะมีน๊อตประกอบเครื่อง สายเพาเวอร์เครื่อง และให้แกะออกมาจัดเตรียมไว้ให้พร้อม

 3.เปิดแผงเหล็กกั้นด้านข้างตัวเคสออก เพื่อเตรียมติดตั้งเมนบอร์ด

 4. แสดงให้เห็นลักษณะการง้างแผงเหล็กด้านข้าง ก่อนถอดออกมา

 5. ตัวเคสที่แกะแผงข้างออกมา พร้อมประกอบเข้ากับเมนบอร์ดแล้ว

ขั้นตอนที่ 3 ติดตั้งเมนบอร์ดเข้ากับแผงเคสขั้นตอนนี้ให้แกะกล่องบรรจุเมนบอร์ดที่เพิ่งซื้อออกมาดู โดยทุกเมนบอร์ดจะมีต้วเมนบอร์ด สายฮาร์ดดิสก์/ฟล๊อบปี้ดิสก์ คู่มือเมนบอร์ด และแผ่นซีดีไดรว์เวอร์เมนบอร์ดมาด้วย ให้ตรวจดูความเรียบร้อยก่อน สิ่งที่สำคัญที่สุดในขั้นตอนนี้คือ เมื่อติดตั้งเมนบอร์ดเข้ากับแผงเคสแล้ว ให้กำหนดจัมเปอร์บนเมนบอร์ดเป็น " " "Normal" ( เมนบอร์ดที่ซื้อมาทุกอันจะถูกกำหนดจัมเปอร์เป็น "Clear CMOS" เพื่อป้องกันแบตเตอรี่หมด) เพระาหากไม่กำหนดจัมเปอร์ให้ถูกต้อง หลังประกอบเครื่องแล้วจะบู๊ตเครื่องๆไม่ได้ สำหรับการติดตั้งเมนบอร์ดมีขั้นตอนดังนี้
1. แกะกล่องเมนบอร์ดตรวจดูคู่มือ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม
2. ขันแท่นรองน๊อตเข้ากับแท่นเครื่องให้ตรงกับช่องเมนบอร์ด

3.วางทาบให้ช่องเมนบอร์ดตรงกับรูแท่นรองน๊อตที่ขันยึดกับแผงเคส โดยสังเกตดูให้แท่นรองน็อตตรงกับเมนบอร์ดทุกช่อง

4. ขันน๊อตลงบนแท่นรองน๊อต เพื่อยึดเมนบอร์ดเข้ากับแผงเคส

5. ให้คีมปากจิ้งจกคีบจัมเปอร์ มาใส่ไว้ตำแหน่ง "Normal"

ขั้นตอนที่ 4 ติดตั้งซีพียูบนเมนบอร์ดการติดตั้งซีพียูในปัจจุบันสะดวกกว่าแต่ก่อนมากนักเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นแบบซ๊อกเก๊ตที่มีขาทั้งตัว เวลาติดตั้งกับช็อกเก็ตบนเมนบอร์ด ให้หันมุมที่มีรอยหักให้ตรงกับด้านที่มีรอยหักบนเมนบอร์ด ก็จะเสียบลงไปได้พอดี หากใส่ไมเข้าอย่าฝืนดันเข้าไปให้ถอดออกมาตรวจสอบและตรวจดูมุมหักให้ถูกต้อง ก่อนใส่กลับเข้าไปใหม่ หลังจากนั้นให้ติดตั้งพัดลมระบายความความร้อนให้กับซีพียูด้วย ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. ง้างกระเดื่องล็อคซีพียูออกทางด้านข้างจนสุด และดันขึ้นเพื่อเตรียมใส่ซีพียู

 2. เสียบใส่ซีพียูเข้ากับซ็อกเก็ตโดยดันเข้าไปตรงๆ ให้ด้านที่มีรอยหักของซีพียูตรงกับรอยหักซ้อกเก็ต

3. ดันแขนกระเดื่องกลับลงมาล็อคกับช็อกเก็ตเหมือนเดิม
4. ใช้ไขควงเกี่ยวแขนล็อคพัดลมยึดกับหูล็อคบนช็อกเก็ตบนเมนบอร์ด
5. เสียบสายพัดลมเข้ากับขั้วจ่าายไฟเลี้ยงเมนบอร์ดที่ตำแหน่ง "CPU FAN"
ขั้นตอนที่ 5 ติดตั้งแรมเข้ากับเมนบอร์ดการติดตั้งแรมเข้ากับเมนบอร์ดทำได้ไม่ยาก แต่มีหลักอยู่ว่าในช่องเสียบแรมชนิดต่างๆ จะมีล็อคอยู่ในตำแหน่งต่างกัน เพื่อป้องกันการเสียบแรมผิดด้านจะทำให้แรมไหม้เสีย ดังนั้นก่อนเสียบแรมทั้งแบบ SDRAM,DDRSDRAM และ RDRAM ควรตรวจดูคันล็อคว่าอยู่ด้านใดและใส่แรมให้ถูกด้าน โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. หาตำแหน่งสล็อตเสียบแรมบนเมนบอร์ด และเตรียมแรมให้พร้อม
2. หันแรมให้ถูกด้านโดยให้รอยบากบนตัวแรม ตรงกับคันล็อคบนสล็อตเมนบอร์ด ให้ตรวจดูให้ดีว่าสล็อตเมนบอร์ดใช้แรมที่เรามีอยู่ได้หรือไม่ ดันแรมลงไปตรงๆ จนสุด ซึ่งสังเกตได้ว่าแขนล็อคแรมได้กระดกกลับมาล็อคปลายแรมทั้งสองข้างพอดี


ขั้นตอนที่ 6 ติดตั้งฟล็อบปี้ดิสก์การติดตั้งฟล็อบปี้ดิสก์ค่อนข้างง่ายกว่าติดตั้งอุปกรณ์อื่น เพราะมีสายที่ต้องติดตั้งเพียง 2 เส้นคือ สายไฟและสายสัญญาณ การติดตั้งสายไฟจะมีหัวล็อคอยู่ถ้าไม่พอดีอย่าฝืนดันเข้าไปส่วนสายสัญญาณก็ให้เสียบขาที่ 1 ให้ตรงกับฟล็อบปี้ดิสก์ในการสังเกต คือ เมื่อเสียบสายทั้ง 2 เส้นเข้ากับฟล็อบปี้ดิสก์แล้วสายไฟเส้นสีแดง และสาาายสัญญาณด้านที่มีสีแดงต้องอยู่ชิดกัน มีขั้นตอนดังนี้

1. ใส่ฟล็อบปี้ดิสก์เข้าไปในช่องติดตั้ง ( Drive Bay ) และดันเข้าไปให้สุด
2. ใช้ไขควงขันน๊อตยึดฟล็อบปี้ดิสก์เข้ากับช่องเคส
3.เสียบสายจ่ายไฟเลี้ยงและสายสัญญาณเข้ากับไดรว์ให้ถูกต้อง
4.เสียบสายสัญญาณอีกด้านเข้ากับช่องเสียบบนเมนบอร์ด โดยให้ด้านที่มีสายสีแดงตรงกับขา 1 บนเมนบอร์ด


ขั้นตอนที่ 7 ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ก่อนการติดตั้งวฮาร์ดดิสก์เข้าเครื่อง ให้กำหนดจัมเปอร์ฮาร์ดดิสก์ก่อนโดยถ้าเป็นฮาร์ดดิสก์สำหรับติดตั้ง และบู๊ตระบบต้องกำหนดให้เป็น"Master" อย่างเดียว สำหรับฮาร์ดดิสก์ลูกที่ 2 ที่ติดตั้งบนสายเส้นเดียวกันก็ให้กำหนดเป็น "slave" และให้ติดตั้งสาย 2 เส้นเช่นเดียวกันกับฟล็อบปี้ดิสก์ คือสายจ่ายไฟ และสายสัญญาณให้เสียบให้ถูกด้านโดยสายจ่ายไฟมีรอยหักมุมบน ส่วนสัญญาณให้สังเกตขา


1 เป็นหลักโดยมีตัวเลขกำกับไว้ที่ท้ายไดรว์ ส่วนที่ส่วนตัวสายขา 1 จะมีสีแดง ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้1. กำหนดจัมเปอร์ฮาร์ดดิสก์ไว้ที่ตำแหน่ง "Master" เพื่อใช้บู๊ตเครื่อง
2.ใส่ฮาร์ดดิสก์เข้าไปในช่องใส่ไดรว์ในเคส (Drive Bay) โดยดันเข้าไปให้สุด และขยับให้ช่องขันน๊อตของตัวไดรว์ตรงกับรูยึดด้านข้าง

3. ขันน๊อตยึดฮาร์ดดิสก์เข้ากับผนังเคส โดยขันให้ครบทั้ง 2 ด้าน


4.เสียบสายจ่ายไฟและสายสัญญาณเข้าที่ท้ายฮาร์ดดิสก์โดยให้สายจ่ายไฟด้านที่มีรอยหักมุมอยู่บน ส่วนสายสัญญาณให้ด้านที่มีเส้นสีแดงชิดกับสายจ่ายไฟ


5.นำปลายอีกด้านของสายสัญญาณเสียบเข้ากับช่องต่อบนเมนบอร์ด โดยให้เส้นสีแดงอยู่ตรงขา 1 บนเมนบอร์ดโดยจะมีตัวเลข 1 กำกับอยู่6.ปิดฝาเคสเป็นอันเสร็จเรียบร้อย



6.ปิดฝาเคสเป็นอันเสร็จเรียบร้อย